ในแห่งการทำงานร่วมกันบุคคลอื่น ๆ นั้น ย่อมพบเจอคนคนหลากหลายรูปแบบ แต่ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือลูกน้อง ก็ย่อมต้องมีปฏิสัมพันธ์และการทำงานร่วมกันอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ในทุกความสัมพันธ์ก็ย่อมต้องมีความไม่เข้าใจกัน หรือการกระทบกระทั่งกันบ้าง ไม่ว่าจะด้วยจากเนื้องานหรือจากอารมณ์ส่วนตัวในบางสถานการณ์ ดังนั้นทักษะสำคัญที่ทุกคนจำเป็นต้องมีคือ ทักษะการทำงานเป็นทีม ซึ่งหมายถึง วิธีการจัดการกับตัวเองเมื่อมีสิ่งใดมากระทบหรือไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้ เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ และบรรลุถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ร่วมกัน วันนี้มี 9 เทคนิคดี ๆ ที่คนทำงานเป็นทีมต้องมีมาฝากกันค่ะ มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
- การรับฟังผู้อื่น
เมื่อคุณอยู่ในทีม คุณควรที่จะเคารพและรับฟังความคิดของผู้อื่น เพราะทุกความเห็นล้วนมีประโยชน์นำมาซึ่งข้อมูลที่นำมาพัฒนางานของเราไม่มากก็น้อย การที่เราเปิดใจรู้จักรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นเป็นการสะท้อนตัวตนของเราเองเราว่าเราสามารถยอมรับความเห็นที่แตกต่างได้ และการที่เรายอมรับฟังความเห็นคนอื่นนั้นยังได้ประโยชน์ด้านความหลากหลายหรือสิ่งใหม่ ๆ ที่เราอาจจะมองไม่เห็นหรือมองข้ามไป มนุษย์เราไม่มีใครรอบรู้หรือเก่งไปทุกด้าน ดังนั้นยิ่งฟังมากก็ยิ่งได้ประโยชน์มาก
- หลีกเลี่ยงการปะทะอารมณ์
ในการทำงานร่วมกับคนหมู่มาก เป็นธรรมดาที่อาจจะเกิดข้อขัดแย้งกันบ้าง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเกิดกรณีข้อขัดแย้งขึ้นควรหาหนทางประนีประนอมเพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น หลีกเลี่ยงการปะทะหรือการเผชิญหน้าที่อาจจะทำให้สถานการณ์แย่ลง ผ่านไปสักชั่วเวลาหนึ่งสถานการณ์ก็จะเริ่มคลี่คลาย ถึงเวลานั้นจึงค่อย ๆ สอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จงจำไว้ว่าถ้าเอาอยากแต่จะเอาชนะกันโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกใคร ทีมมักล่มเสมอ
- รับผิดชอบในหน้าที่ของตนเอง
การทำงานเป็นทีมจะสำเร็จได้นั้น ทุกองค์ประกอบทุกหน้าที่ย่อมมีความสำคัญแตกต่างกันไป หากขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไปความสำเร็จนั้นก็อาจเป็นไปได้ยากมากขึ้นหรือมีอุปสรรคระหว่างการดำเนินงานมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นเมื่อเราได้รับมอบหมายหน้าที่มาควรทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด รับผิดชอบในงานนั้น ๆ ให้เต็มที่ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในภาพรวม
- การให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ถึงแม้ว่าเราจะมีหน้าที่ความรับผิดชอบในงานของตัวเอง แต่เมื่อเกิดปัญหาในทีมก็ควรมีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกันอันจะทำให้กิจกรรมดำเนินไปได้อย่างราบรื่น หากเราคิดว่าไม่ใช่หน้าที่ไม่ช่วยเหลือ ความคิดแบบนี้จะทำให้ความสำเร็จในทีมห่างออกไป
- มีความเสียสละ
การทำงานร่วมกับคนหมู่มาก แน่นอนว่าเราไม่สามารถกำหนดให้สถานการณ์ต่าง ๆ เป็นไปได้ตามที่เราต้องการไปทุกเรื่อง อาจมีบางเรื่องที่เราต้องใช้ความสามารถมากกว่าคนอื่นในด้านที่เราอาจจะถนัดหรือทำได้ดี หรืออาจมีบางงานที่เราต้องอาศัยให้เพื่อนร่วมงานช่วยเหลือในสิ่งที่เค้ารู้หรือทำได้ดี ดังนั้น เราจะต้องรู้จักเสียสละ อาจจะเสียสละเรื่องเวลาทำงานหรือภาระงานที่เราอาจจะทำได้ดีกว่าคนอื่นบ้าง การรู้จักเสียสละความสุขสบายส่วนตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ จะทำให้เราเป็นคนที่น่าคบหาและน่าไว้วางใจให้รับผิดชอบงาน
- มีความเป็นธรรมและตรงไปตรงมา
เมื่อมีการทำงานในทีม การเกิดความไม่พอใจในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเกิดความอิจฉาสมาชิกในทีม ถือเป็นเรื่องธรรมดาและเกิดขึ้นได้ในทุกที่ ถ้าหากคุณมีความรู้สึกว่ามีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผล คุณควรจะให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมาทันที ไม่พูดลับหลัง ทุกคนมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ต้องกลัวว่าได้รับผลร้ายที่จะมีต่อเนื่องมาภายหลัง หากคุณสามารถทำเช่นนั้นได้ ก็จะทำให้สมาชิกคนอื่นยอมรับและเชื่อถือในตัวคุณด้วย
- ให้การสนับสนุนและไว้วางใจต่อกัน
สมาชิกในทีมจะต้องมีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ในการทำงานต่าง ๆ อาจมีความเห็นที่ไม่ตรงกันหรือเห็นพ้องเห็นต่างในจุดต่าง ๆ แต่เมื่อเห็นต่างแล้วก็ควรมีเหตุและผลที่ดีในการสนับสนุนและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ซึ่งจะต้องแก้ไขในเรื่องไหนอย่างไรก็กล้าที่จะพูดออกไปตามตรงโดยไม่ใช้อารมณ์หรือเรื่องส่วนตัว พร้อมข้อเสนอแนะเพื่อให้เพื่อนร่วมทีมได้แก้ไขจุดบกพร่องนั้น ๆ สิ่งเหล่านี้ไม่ถือเป็นการทะเลาะเบาะแว้งหรือการปะทะกัน แต่คือการให้การสนับสนุนกันอย่างแท้จริงด้วยความจริงใจ
- เป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี
ในการทำงานเป็นทีม ส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยบุคคลที่มีลักษณะความเป็นผู้นำและผู้ตามในเวลาเดียวกัน ผู้นำในที่นี้ไม่ได้หมายถึงหัวหน้างานหรือผู้บังคับบัญชา แต่หมายถึงบุคคลที่กล้าคิดกล้าตัดสินใจ กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นของตนเอง รู้หน้าที่ของตนเองไม่ต้องรอคำสั่ง มีข้อเสนอแนะหรือคำแนะนำที่ดีให้พับเพื่อนในทีมเสมอ และขณะเดียวกันเมื่อมีบุคคลอื่นเป็นผู้นำ ก็สามารถเป็นผู้ตามที่ดี รับฟังอย่างเปิดกว้าง ยอมรับในข้อเสนอแนะและนำมาปรับปรุงและพัฒนาตนเอง
- รู้จักพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
การหมั่นเติมความรู้ใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ทำให้เราเป็นคนรอบรู้และสามารถนำความรู้นั้นมาพัฒนาต่อยอดให้กับตนเองหรือองค์กรได้ การที่เราเป็นคนที่ชอบแสวงหาความรู้ทำให้เราเป็นคนที่คิดพัฒนาอยู่ตลอดเวลาไม่หยุดนิ่ง และการพัฒนานี้ก็จะทำให้เราได้ไอเดียหรือความรู้ใหม่ ๆ ที่จะนำมาใช้ประโยชน์ต่อไป